วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

งานชิ้นที่ 2

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ david berlo's smcr model

ผู้ส่ง (source)  มีทัศนคติที่ดีต่อผู้รับเพื่อผลในการสื่อสารมีความรู้อย่างดีเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร
ที่จะส่ง
 สามารถส่งสารให้เหมาะสมและเข้าใจง่ายต่อระดับความรู้ของผู้รับสาร
          ในฐานะครูปฐมวัย ในการสื่อสารให้กับเด็กควร ใช้ภาษาที่ถูกต้อง ใช้คำพูดที่ชัดเจน
ฟังง่าย
 น่าฟังพูดเป็นจังหวะ การแสดงสีหน้าท่าทางให้เข้ากับคำพูด  ไม่พูดช้าหรือเร็วเกินไป
การสื่อสารกับเด็กควรมีทัศนคติที่ดีต่อเด็ก
สาร (message) เกี่ยวข้องทางด้านเนื้อหา สัญลักษณ์ และวิธีการส่งข่าวสาร เรื่องราวที่มีความหมาย ที่สามารถทำให้เกิดการรับรู้ร่วมกันได้
          ในฐานะครูปฐมวัย ควรสื่อสารให้เด็กเข้าใจ การที่จะให้เข้าใจยิ่งขึ้น ควรแสดง สัญลักษณ์ความรู้ ความคิด ความรู้สึกต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังเด็กได้เข้าใจ สามารถเข้าใจร่วมกันและโต้ตอบกันได้
ช่องทางในการส่ง (Channel) สิ่งที่เป็นพาหนะของสาร ทำหน้าที่นำสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร ผู้ส่งสารต้องอาศัยสื่อหรือช่องทางทำหน้าที่นำสารไปสู่ผู้รับสาร
          ในฐานะครูปฐมวัย เด็กจะต้องได้รับข่าวสารข้อมูลโดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น การให้สื่อที่รู้ด้วยการเห็นและการฟัง ให้เด็กได้ดูโทรทัศน์ วิดีทัศน์ ที่ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน
ผู้รับ (Receiver) เช่นเดียวหรือคล้ายคลึงกันกับผู้ส่ง ต้องมีทักษะความชำนาญในการสื่อสาร เป็นผู้มีทัศนคติ จึงจะทำให้การสื่อสารความหมายหรือการสื่อสารนั้นได้ผล
          ในฐานะครูปฐมวัย ต้องรู้จักสังเกตเด็กว่าสิ่งที่เราสื่อสารกับเด็กนั้น เขาเข้าใจความหมายของเราหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าใจ เราต้องปรับการสื่อสารให้เข้าใจง่าย เรียงลำดับคำพูดหรือแสดงสัญลักษณ์ ท่าทางให้เข้าใจและตรงความหมายให้ง่ายมากกว่านี้

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560

งานชิ้นที่ 1

1. นวัตกรรม คือ
                       ความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น  เมื่อนำ  นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย
                      “นวัตกรรม” (Innovation) มีรากศัพท์มาจาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทำสิ่งใหม่ขึ้นมา ความหมายของนวัตกรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์คือ การนำแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือก็คือ ”การทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ (Change) ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราให้กลายมาเป็นโอกาส (Opportunity) และถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม” แนวความคิดนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยจะเห็นได้จากแนวคิดของนักเศรษฐอุตสาหกรรม เช่น ผลงานของ Joseph Schumpeter ใน The Theory of Economic Development,1934 โดยจะเน้นไปที่การสร้างสรรค์ การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันจะนำไปสู่การได้มาซึ่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี (Technological Innovation) เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก นวัตกรรมยังหมายถึงความสามารถในการเรียนรู้และนำไปปฏิบัติให้เกิดผลได้จริงอีกด้วย

2. การประเมินตามสภาพจริง
                     การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ก็คือ การประเมินผลที่ใช้ วิธีการและเกณฑ์ที่หลากหลายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ความสามารถ และ คุณลักษณะต่าง ๆ ของผู้เรียนอย่างเต็มเวลาของกิจกรรมในแต่ละโปรแกรม  โดยให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหรือสร้างผลงานออกมาเพื่อแสดงตัวอย่างของความรู้และทักษะที่ตนมี ซึ่งกิจกรรมที่ นำมาใช้ในการประเมินนั้น จะมีลักษณะเหมือนและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนรู้มากกว่า เป็นการทดสอบ และข้อมูลของการประเมินผลได้มาจากทั้งการเก็บรวบรวมผลงานที่ผู้เรียนได้ ปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับชีวิตประจำวัน การสังเกตพฤติกรรม ควบคู่ไปกบการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ


3. กลุ่มและทีม
                กลุ่ม หมายถึง บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีปฏิสัมพันธ์ (Interacting) ต่อกัน และมีการพึ่งพา (Interdependent) ต่อกันและกันเพื่อบรรลุวัตถุเป้าหมายร่วมกัน
                ทีมงาน หมายถึง กลุ่มของบุคคลที่ทำงานร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างสมาชิกในกลุ่มช่วยกันทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ร่วมทีมต่างมีความพอใจในการทำงานนั้นทีมงาน หมายถึง การทำงานของ เอกัตบุคคลร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในทีมงานเป็นการรวม ตัวที่จะต้องอาศัยความเข้าใจ ความผูกพัน และความ ร่วมมือมีการติดต่อสื่อสารประสานงาน ช่วยเหลือให้ คำแนะนำซึ่งกันและกันเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน
4. ความหมายของภาษา
    "ความหมายของภาษาคำว่า "ภาษา" อาจแบ่งความหมายได้ 2 ประเภท คือ
          1. "ภาษาในความหมายกว้าง" หมายถึง ภาษาที่ใช้คำพูด (วัจนภาษา) และภาษาที่ไม่ใช่คำพูด (อวัจนภาษา) ทั้งนี้ภาษาในความหมายนี้ อาจนับรวมไปถึงภาษาของสัตว์ด้วย แต่เรื่องภาษาของสัตว์นี้ยังมีข้อมูลไม่มากนัก จึงไม่ค่อยมีใครนำมากล่าวรวมกับภาษาของมนุษย์
          2. " ภาษาในความหมายแคบ" หมายถึง ภาษาที่ใช้คำพูด จะเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรซึ่งเป็นความหมายใช้แทนคำพูดก็ได้
          คำว่า "ภาษา" เป็นรากศัพท์ภาษาสันสกฤต แปลว่า คำพูด ส่วนอีกความหมายหนึ่งเป็นความหมายทั่วไป เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เป็นต้น
          ดังนั้นความหมายของภาษาที่จะต้องเขียนเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันก็คือ ความหมายประการหลัง ซึ่งหมายถึงถ้อยคำที่มนุษย์ใช้สื่อความเข้าใจกันนั้นเอง นักภาษาเรียกความหมายของภาษาในแง่นี้ว่า "ความหมายแคบ" เพราะว่า จำกัดอยู่เพียงคำพูดของมนุษย์ เท่านั้น อย่างไรก็ดีเมื่อมนุษย์พัฒนาขึ้น ก็มีวิธีการถ่ายทอดเสียงพูดเป็นสิ่งอื่นในการสื่อสาร สิ่งที่ใช้ในการสื่อสารก็คือ "ตัวอักษร"
                ประเภทของภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
การสื่อสารของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในสังคม อาจสื่อสารกันได้หลายทาง ตั้งแต่การพูดให้ฟัง การเขียนให้อ่าน การส่งผ่านสื่อเทคโนโลยี ฯลฯ อันเป็นการส่งเสริมการใช้ภาษาถ้อยคำ ถ่ายทอดจาก
ผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร การตีความจากการใช้ถ้อยคำเพียงอย่างเดียวอาจไม่ชัดเจนและตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร จึงต้องอาศัยการพิจารณาน้ำเสียง บุคลิก แววตา ท่าทาง และสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย